04 เม.ย. ตามไปดู…ข้อควรระวัง! ก่อนซื้อบ้าน 2 หลังเชื่อมติดกัน-ฮวงจุ้ยบ้านมือสองกับซินแสสมปอง

ถ้าหากติดตามซินแสสมปองผ่านช่องต่างๆ จะเห็นว่าซินแสมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจฮวงจุ้ยให้กับลูกค้าอยู่เป็นประจำ เพราะซินแสจะบอกเสมอว่าแต่ละพื้นที่มีพลังงานแตกต่างกัน และเป็นอีกหนึ่งครั้งที่จะพาทุกคนตามซินแสสมปองไปตรวจฮวงจุ้ยให้กับลูกค้า

ซึ่งบ้านของลูกค้าที่ซินแสจะไปตรวจฮวงจุ้ยให้ในวันนี้เป็นบ้านเดี่ยว ที่เจ้าของได้มีการมาซื้อไว้ แล้ววางแผนว่าจะมีการปรับปรุงโดยการเชื่อมตัวบ้านกับอาคารอีกหนึ่งหลังเข้าด้วยกัน หลังจากลงพื้นที่เพื่อตรวจฮวงจุ้ยแล้ว ซินแสสมปองได้มีคำแนะนำให้กับลูกค้าอยู่หลายจุดเลยทีเดียว จะมีตรงไหนที่ต้องระวัง ต้องปรับแก้บ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย

ประเด็นปัญหาของบ้านหลังนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการแนะนำเรื่องตำแหน่งของห้องแต่ละห้อง ตั้งแต่

ห้องนอนของผู้สูงอายุ เพื่อเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม ตำแหน่งที่อยู่แล้วสุขภาพดีว่าเป็นบริเวณไหน หรือหัวเตียงต้องตั้งอย่างไร ส่วนที่เหลือก็จะเป็นห้องของเจ้าของบ้าน และลูกๆ อีก 2 คน ว่าจะจัดอย่างไรให้ความรัก ความสัมพันธ์ในครอบครัวมันดี รวมถึงยังมีการแนะนำเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆ เพื่อเสริมเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย

ประตูบ้าน

เมื่อลงพื้นที่ตรวจฮวงจุ้ย จุดแรกที่ซินแสสมปองแนะนำก็คือบริเวณ ประตูบ้าน โดยควรย้ายจากตำแหน่งที่สถาปนิกกำหนดไว้มาเป็นตำแหน่งเดิม เพื่อรับพลังงานที่ดีให้มากขึ้น ส่วนรูปแบบของประตู เจ้าของบ้านสามารถเลือกประตูบ้านได้ทั้งแบบที่เป็นบานเลื่อน บานสวิง จะเปิดเข้า หรือเปิดออกก็ได้หมด ตามความชอบของเจ้าของบ้าน แล้วสถาปนิกเห็นสมควร เห็นว่าใช้งานแล้วประหยัดพื้นที่และปลอดภัย 

โต๊ะทานข้าว

จุดต่อมาจะเป็นบริเวณที่จะใช้ตั้งโต๊ะทานข้าว ซึ่งโต๊ะทานข้าวเจ้าของบ้านสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบสี่เหลี่ยม และแบบวงกลม แต่โต๊ะทานข้าว 2 แบบก็แสดงถึงความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน 

• โต๊ะทานข้าวแบบสี่เหลี่ยม : ถ้าหากเลือกใช้โต๊ะทานข้าวแบบสี่เหลี่ยม ความเป็นเหลี่ยมก็จะแสดงถึงกฎเกณฑ์ ความสัมพันธ์ของคนในบ้านก็จะมีเรื่องของกฎเกณฑ์ กฎระเบียบเข้ามาเกี่ยวข้อง
• โต๊ะทานข้าวแบบวงกลม : แต่ถ้าหากเลือกใช้โต๊ะทานข้าวแบบวงกลม มันจะแสดงถึงความอะลุ่มอล่วย สมาชิกในบ้านจะมีความอะลุ่มอล่วยต่อกันซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามากไปมันก็อาจจะส่งผลไม่ดีได้เช่นกัน

ดังนั้นซินแสสมปองจึงให้เจ้าของบ้านเลือกได้เลยว่าต้องการแบบไหน เพราะทั้ง 2 แบบต่างมีทั้งจุดดีและจุดด้อย ใจความสำคัญมันอยู่ที่การปรับเพื่อสร้างความสมดุล ซึ่งคำแนะนำเพื่อปรับให้เกิดความสมดุลที่ซินแสสมปองแนะนำ คือถ้าเลือกโต๊ะกินข้าวแบบสี่เหลี่ยม ให้เลือกเป็นเหลี่ยมที่ลบมุมและไม่ควรวางกระจกไว้ด้านบน แต่ถ้าเลือกโต๊ะทานเข้าแบบวงกลมด้านบนให้วางท็อปด้วยกระจกเพื่อให้เกิดกรอบภายในบ้าน โต๊ะทานข้าวแสดงถึงความเป็นครอบครัว เพราะฉะนั้นการที่เปิดประตูบ้านมา แล้วเห็นโต๊ะกินข้าวมันแสดงถึงคนในบ้านนี้มองครอบครัวเป็นหลัก 

นอกจากนี้ซินแสได้มีการแนะนำให้วางภาพครอบครัวซ้อนไปอีกหนึ่งชั้น ซึ่งถือเป็นจิตวิทยาในบางส่วน ถ้าวันหนึ่งที่ลูกๆ โตขึ้นแต่เดินเข้ามาในบ้านแล้วไม่เจอรูปพ่อแม่ รูปครอบครัว อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เราตอบไม่ได้ว่าอนาคตลูกจะไปเจอใครบ้าง ถ้าวันใดวันหนึ่งมีคนมาเป่าหู มาพูดอะไรบางอย่างมันจะเกิดปัญหาได้ การมีรูปครอบครัวในบ้านจะเป็นเหมือนตัวช่วยที่ดึงเอาไว้ ส่วนตำแหน่งในการวางภาพครอบครัว โดยปกติบ้านแต่ละหลังจะมีพื้นที่สำหรับวางพระพุทธรูป ภาพครอบครัวจะต้องไม่อยู่สูงกว่าหิ้งพระ ไม่อย่างนั้นผู้ใหญ่จะว่าเราไปตีตนเสมอท่าน และทำให้เกิดปัญหาตามมาได้

ห้องของผู้สูงอายุ

ส่วนต่อมาเป็นห้องของผู้สูงอายุ ซึ่งซินแสได้แนะนำให้ย้ายหัวเตียงไปทางหน้าบ้าน เพราะถ้าหันหัวเตียงทางอื่นจะทำให้ผู้สูงอายุนอนหลับไม่สนิท และมีโอกาสสะดุ้งตื่นตอนกลางคืน ซึ่งหัวเตียงจะมี 2 แบบ จะหันทางขวาก็ได้ หรือหันทางหน้าบ้านก็ได้ แต่ในทางฮวงจุ้ยสายพลังจะมองตำแหน่งที่มีพลังที่ดีที่สุด ให้เลือกตำแหน่งนั้นซึ่งมันอยู่หน้าบ้าน ส่วนการจัดองค์ประกอบ สิ่งที่ต้องระวังคือประตูห้องน้ำตัดเตียง กับกระจกเงาตัดเตียง ส่วนฝ้าหลุมมีได้ไม่ได้เสียอะไร แต่ต้องทำความสะอาดให้ดี ไม่อย่างนั้นมันจะมีฝุ่นตกลงมาตอนนอน ซึ่งมันจะกลายเป็นปัญหา

บ้านสองหลังอยู่ในรั้วเดียวจะมีปัญหาหรือไม่?

เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวขนาดเล็ก ส่วนบ้านอีกหนึ่งหลังเป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าหลังเล็กเกือบ 3 เท่า หลังใหญ่จึงจะข่มหลังเล็กเอาไว้ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง หรือความแตกแยก ที่ต้องบอกแบบนั้นเพราะบางตำราว่าไว้ว่า ในหนึ่งรั้วไม่ควรมีบ้าน 2 หลัง ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกัน

ซินแสสมปองแนะนำว่า ในการซื้อบ้านมือสอง มันมีทั้งบ้านที่พลังงานดี และบ้านที่พลังงานไม่ดี เพียงแต่ว่าตัวเจ้าของใหม่จะต้องเข้าไปดูว่าพลังงานของบ้านมันเข้ากับพลังงานของเจ้าของใหม่หรือไม่ ซึ่งถ้าเรามีการจัดฮวงจุ้ยให้พลังงานของเจ้าของบ้านกับบ้านเข้ากันแล้ว มันก็จะส่งผลให้ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย แล้วตัวบ้านก็จะกลายเป็นขุมทรัพย์อย่างแท้จริง